รู้จักกับวอลเปเปอร์ลายไทย

wallpaper-04

หากจะถามผมว่าวอลเปเปอร์รูปแบบใดกำลังเป็นที่ฮิตที่สุดสำหรับคนไทยในปัจจุบันผมคงตอบว่าน่าจะเป็นวอลเปเปอร์ลายไทยเพราะเนื่องจากในปัจจุบันมีคนนิยมใช้วอลเปเปอร์ลายไทยนี้ในการการตกแต่งบ้านหรือสถานที่ต่างๆ เพื่อความสวยงามซึ่งมาถึงบรรทัดหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการวอลเปเปอร์อาจจะยังงงๆ อยู่ว่าอะไรคือวอลเปเปอร์ลายไทยนั้นผมจึงขออธิบายคำว่าวอลเปเปอร์ลายไทยให้เข้าใจกันก่อนครับ

               วอลเปเปอร์ลายไทยนั้นก็คือวอลเปเปอร์ชนิดหนึ่งเหมือนกับวอลเปเปอร์ทั่วๆ ไปแต่มีลักษณะเฉพาะอยู่ที่ลวดลายของตัววอลเปเปอร์นั้นแทนที่จะเป็นลายรูปธรรมชาติหรือเป็นสีๆ แต่มันกลับเป็นลวดลายไทย เราจึงเรียกวอลเปเปอร์แบบนี้ว่าเป็น “วอลเปเปอร์ลายไทย” นั่นเองครับ

               ปัจจุบันวอลเปเปอร์ลายไทยมักนิยมใช้ในงานของพระพุทธศาสนามากขึ้นเพราะเนื่องจากลดต้นทุนในการวาดรุปลายไทยตามผนังโบสถ์หรือวิหารนอกจากนี้เมื่อบวกลบคูณหารกันออกมาแลววอลเปเปอร์ลายไทยมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการจ้างคนวาดนั่นเอง

               นอกจากตามวัดวาอารามทางศาสนาแล้วบรรดาเจ้าของบ้านผู้มีสไตล์ทั้งหลายก็นิยมที่จะนำวอลเปเปอร์ชนิดนี้ไปตกแต่งห้องพระเพื่อความสงบและดูเข้มขลังของห้องพระอีกด้วยส่วนที่นำไปใช้ในการตกแต่งปราสาทราชวังหรือสถานที่สำคัญๆ ของไทยในปัจจุบันก็เริ่มมีให้เห็นแล้วเช่นที่ศาลหลักเมืองหรือหมู่ราชมณเฑียรในพระบรมมหาราชวังและหมู่พระที่นั่งต่างๆ ในพระราชสังบางปะอินหรือวังสวนกุหลาบ เหล่านี้เป็นต้น

เลือกม่านม้วนให้เหมาะกับห้อง

certain-004

ดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่าม่านม้วนนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบคือใบม่านกันแดด ใบม่านทึบแสงและใบม่านที่ยอมให้แสงผ่านได้บ้างซึ่งม่านม้วนแต่ละแบบนั้นก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันดังนั้นเรามาดูการใช้งานของม่านม้วนในแต่ละประเภทกันดีกว่าครับว่าม่านม้วนแบบใดควรใช้ในห้องแบบไหนเพื่อการใช้งานสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ

               แบบแรกของม่านม้วนที่จะกล่าวถึงก็คือม่านม้วนที่กันแสดงแดดได้ 100% ซึ่งม่านประเภทนี้จะเป็นแบบทึบแสงเต็มตัว แสงไม่สามารถลอดผ่านได้จุดเด่นของม่านชนิดนี้ก็คือช่วยกันความร้อนได้ดีจึงเหมาะกับห้องที่โดนแสงแดดจัดอยู่บ่อยๆ หรือตลอดทั้งวัน

               แบบที่ 2 ของม่านม้วนที่จะกล่าวถึงก็คือม่านม้วนแบบกันแสงได้ 60-70% ซึ่งม่านแบบนี้จะเป็นประเภทกันแดดโดยจะยอมให้แดดผ่านมาได้ไม่เกิน 40% ทำให้อุณหภูมิห้องมีลักษณะกำลังดีไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไปและมีแสงสว่างกำลังพอเหมาะดังนั้นม่านประเภทนี้จึงนิยมใช้ตามอาคารสำนักงานสูงๆ

               แบบที่ 3 แบบสุดท้ายเราเรียกกันว่าเป็นแบบมองทะลุเห็นด้านนอกด้านซึ่งม่านม้วนแบบนี้นั้นจะกันแสดงได้ถึง 50% และในขณะเดียวกันตัวม่านก็จะมีรูเล็กๆ ให้สามารถมองด้านนอกได้ ซึ่งหากห้องใดเป็นห้องที่มีแสงแดดจัดส่องผ่านอยู่บ่อยๆ ไม่แนะนำให้ใช้ม่านชนิดนี้ครับเพราะจะทำให้ป้องกันความร้อนได้ไม่ดีเท่าที่ควรซึ่งม่านประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นพาร์ติชั่นกั้นระหว่างห้องเสียมากกว่า